วันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2562

ชี้ทางรวย! เผยวิธี “เพาะเห็ดเข็มทอง” แบบง่ายๆ สร้างรายได้ 4 หมื่นอัพต่อเดือน!

ชี้ทางรวย! เผยวิธี “เพาะเห็ดเข็มทอง” แบบง่ายๆ สร้างรายได้ 4 หมื่นอัพต่อเดือน!


ปัจจุบันหลายคนหันไปทำอาชีพอิสระอย่างการทำเกษตร เพราะเนื่องจากมีหลายได้เยอะกว่าพนักงานบริษัททั่วๆ ไป และสามารถหารายได้จากหลายทาง ซึ่งมีอีกหนึ่งอาชีพที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากและสร้างเม็ดเงินจำนวนมากในแต่ละเดือน คือ “การเพาะเห็ดเข็มทอง” ด้วยความต้องการในตลาดผู้บริโภคสูงขึ้นทุกวัน การเพาะเห็ดเข็มทองจึงช่วยสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำด้วยเช่นกัน สำหรับวิธีการเพาะ เห็ดเข็มทอง ง่ายนิดเดียว มาทำที่บ้านก็ได้ ขั้นตอนบริการไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลย เห็ดเข็มทองนั้นเป็นเหตุยอดฮิต เป็นเห็ดที่นิยมที่สุดในช่วงนี้ ไม่ว่าจะไปที่ไหน ร้านอาหาร ห้างดัง บุฟเฟ่ เมนูตามสั่ง ทุกอย่างที่กล่าวมานี้มีเมนูของเห็ดเข็มทองหมด เพื่อนๆคนไหนอยากจะลองเอาไปประกอบอาชีพ วันนี้เราจะมาบอกวิธีการเพาะเห็ดเข็มทองในแบบฉบับของเรา
เห็ดเข็มทอง หรือ เห็ดเหมันต์ (Enokitake) มีชื่อวิทยาศาสตร์คือ Flammulina velutipes (Curt,ex Fr.) อาจเรียกว่า needle mushroom
วิธีเพาะเห็ดเข็มทอง
วัสดุและอุปกรณ์ที่จะต้องเตรียมในการเพาะเห็ด
1.สิ่งแรกนั่นก็คือ ขี้เลื่อยผสมรำละเอียดประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์
2.หลังจากนั้นให้เราทำการผสมกับแก่ประมาณ 5 ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ตามความพอใจ
3.หลังจากที่เราได้ผสมส่วนผสมไปได้เรียบร้อยแล้วนั้น ให้ทำงานนำเชื้อเห็ดที่จะมาปลูก ใส่ในภาชนะขวดที่ทนความร้อน
*ขอแนะนำ ขี้เลื่อยควรรดน้ำกองทิ้งไว้จนน้ำที่ไหลซึมออกมามีสีใสๆ
– เริ่มลงมือปลูก เชื้อที่จะนำมาเพาะเห็ดทางที่ดีควรอบ ทำความสะอาดก่อน แล้วทิ้งขวดขี้เลื่อยให้เย็นประมาณ 20 องศาเซลเซียสจึงจะใส่เชื้อการเพาะเห็ดลงไปในขวดที่เราเตรียมไว้
– จากนั้นก็บ่มเชื้อโดยการนำขวดเพาะที่ใส่เชื้อเห็ดไปตั้งไว้ในห้องที่อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 8-12 องศาเซลเซียส ซึ่งจะทำให้อุณหภูมิภายในขวดขี้เลื่อยเหมาะต่อการเจริญเติบโตของเส้นใยเห็ด
– ใช้เวลา 25-30 วัน เชื้อจะเจริญเต็มขวด เมื่อเชื้อเจริญเต็มขวด ให้เปิดฝาออกแล้วใช้เหล็กปลายแบนงอเหมือนช้อนขุดเอาส่วนหน้า หรือส่วนที่เป็นเชื้อขี้เลื่อยออกให้หน้าเรียบ
นำไปไว้ในอุณหภิมูห้องที่ 10-15 องศา รักษาอุณหภมิให้สม่ำเสมอ ใช้เวลา 5-10 วัน เห็ดก็จะสร้างตุ่มดอก แล้วก็เลี้ยงต่อจนดอกเห็ดโผล่จากปากขวด 2-3 เซนติเมตร ก็นำเห็ดไปทานได้
ทีมา:siamintel.com

สูตรการทำบาร์บีคิว สามารถเป็นอาชีพสร้างรายได้เสริม

สูตรการทำบาร์บีคิว สามารถเป็นอาชีพสร้างรายได้เสริม



บาร์บีคิวหมูและไก่ 3 สูตร ทำเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ขายง่ายสบายๆให้ท่านศึกษาข้อมูลทั้ง 3 สูตร แล้วนำไปปรับใช้ได้เลยค่ะ
สูตรที่ 1
ส่วนผสม
1.หมูสันใน 250 กรัม
2.เนื้อไก่ 250 กรัม
3.สับปะรด 1 ถ้วย
4.หอมหัวใหญ่ 1 ถ้วย
5.มะเขือเทศสีดา 10 ลูก
6.พริกหยวก 1 ถ้วย
7.พริกหวาน 1 ถ้วย
8.พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
9.เนยสด 1 ถ้วย
10.น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
11.เกลือ 1 ช้อนชา
12.น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
13.ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุงส่วนผสมซอสบาร์บีคิว
1.ซอสพริก 1 ช้อนโต๊ะ
2.ซอสมะเขือเทศ 2 ช้อนโต๊ะ
3.น้ำตาลทราย 3 ช้อนชา
4.มัสตาร์ด 1 ช้อนชา
5.กระเทียมสับละเอียด 2 กลีบ
วิธีทำ
1.นำหมูและไก่มาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ แล้วพักไว้
2.นำซอสพริก ซอสมะเขือเทศ น้ำตาลทราย มัสตาร์ด กระเทียมสับมาผสมเข้าด้วยกัน แล้วพักไว้
3.นำเนื้อหมู และเนื้อไก่ที่เตรียมไว้มาหมักเข้ากับพริกไทยป่น น้ำตาลทราย เกลือ น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว หมักทิ้งไว้ 30นาที หรือ1 ชั่วโมง เพื่อให้เครื่องปรุงเข้าเนื้อได้ดี
4.นำเนื้อหมูและไก่ที่หมักเสร็จแล้วมาเสียบไม้สลับกับสับปะรด พริกหยวก พริกหวาน มะเขือเทศ จากนั้นนำมาย่างโดยใช้ไฟปานกลาง
5.ทาเนยลงบนบาร์บีคิวให้ทั่วขณะย่าง จากนั้นทาซอสที่เตรียมไว้มาทาทับให้ทั่วอีกครั้ง ย่างจนเนื้อหมูและไก่สุก
6.จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ

สูตรที่ 2
ส่วนผสม
1.ซอสมะเขือเทศ 10 ช้อนโต๊ะ
2.ซอสพริก 5 ช้อนโต๊ะ
3.น้ำตาล 1/2 ช้อนโต๊ะ
4.เกลือ ปลายๆ ช้อนชา
5.พริกป่น 1/2 ช้อนชา
วิธีทำ
1.คนส่วนผสมให้เข้ากัน
2.จะย่างอะไรก็เสียบไม้ไว้ สลับเนื้อสัตว์ – สัปปะรส – มะเขือเทศ – พริกหวาน ตามชอบเลย
3.แล้วก็ย่างเดิมๆไปก่อนยังไม่ต้องทา ให้มันพอเกือบสุก ก็เอาแปรงจุ่มซอส แล้วก็ ทาๆๆ
4.ย่างต่อให้มันแห้งอีกนิด เป็นอันเสร็จ

สูตรที่ 3
ส่วนผสม
1.เนื้อ 1 กก
2.น้ำมันหอย 4 ช้อน
3.น้ำมันพืช 2 ช้อน
4.ซีอิ้วขาว 1 ช้อน
5.แม็กกี้ 1 ช้อน
6.น้ำตาล 1 ช้อนชา
7.พริกไทยป่นหรือเม็ด(ตำละอียดพอประมาณ) ตามความชอบ
8.ผงชูรสใส่ตามชอบ (ไม่ใส่ก็ได้ แต่ผมขาดไม่ได้)
วิธีทำ
1.หมักให้เข้ากัน ทิ้งไว้ซัก 10 นาที (แต่ถ้าชอบเค็มๆก็นานกว่านี้ได้ 555 )
2.อันนี้เป็นสูตรส่วนตัว ที่ใช้กินเวลาแกล้มเบียร์
3.แต่ถ้าแบบง่ายๆก็แนะนำ ทาคูมิ อายิซอส ขวดสีแดงครับ แก้ขัดได้
สูตรการทำบาร์บีคิว สามารถเป็นอาชีพสร้างรายได้เสริม สูตรการทำบาร์บีคิว สามารถเป็นอาชีพสร้างรายได้เสริม สูตรการทำบาร์บีคิว สามารถเป็นอาชีพสร้างรายได้เสริม สูตรการทำบาร์บีคิว สามารถเป็นอาชีพสร้างรายได้เสริม


ที่มา:https://www.tvpoolonline.com/


เกษตรกรเพชรบูรณ์ ปลูกพริกเน้นคุณภาพ ขายในและส่งออกต่างประเทศ

เกษตรกรเพชรบูรณ์ ปลูกพริกเน้นคุณภาพ ขายในและส่งออกต่างประเทศ


คุณธีรวัฒน์ รังสิกรรพุม เจ้าของสายมีฟาร์ม อยู่ที่ตำบลวังชมภู อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นเกษตรที่ปลูกพริกส่งออกยุโรปและญี่ปุ่น อาจเรียกว่าเป็นรายใหญ่ของไทยก็ว่าได้ โดยส่งออกพริกประมาณอาทิตย์ละ 2-3 ตัน หรือปีละ 100 ตันเลยทีเดียว

ในเรื่องของสายพันธุ์พริกที่ปลูกจะเป็นสายพันธุ์เรดฮอท และชุปเปอร์เรดฮอท เป็นของบริษัทเพื่อนเกษตรกร  จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการผลิตเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพอีกบริษัทหนึ่ง โดย คุณพิทักษ์ชน โตสารเดช เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการขาย ให้ข้อมูลว่า ทางบริษัทได้มีการพัฒนาพริกให้เป็นพันธุ์ลูกกผสม เพื่อให้ผลผลิตดกได้ประมาณผลผลิตต่อไร่สูง และที่สำคัญอายุการเก็บเกี่ยวสั้น
ผลผลิตดีมีกำไร
“เรดฮอทเป็นพริกที่มีการพัฒนาสายพันธุ์มาไม่ต่ำกว่า 4 ปี ลักษณะพิเศษคือเป็นพริกที่มีผลสม่ำเสมอ ส่วนชุปเปอร์เรดฮอทเป็นพริกที่พัฒนามาได้ 1 ปีกว่าๆ ซึ่งตอนนี้กำลังทำตลาดอยู่ที่จังหัดขอนแก่น เป็นพริกที่พัฒนาสายพันธุ์เพื่อพัฒนาผลให้ใหญ่ขึ้น และมีสีที่เข้มขึ้น” คุณพิทักษ์ชน กล่าวให้ฟังถึงลักษณะของสายพันธุ์พริก
มีประสบการณ์การปลูกพริก
มากกว่า 7 ปี
คุณธีรวัฒน์ เล่าให้ฟังว่า เขาเป็นเกษตรกรที่ปลูกพริกอยู่ในจังหวัดเพชรบูรณ์ประมาณ 30 ไร่ และได้มีการทำเป็นเครือข่ายกับเพื่อนเกษตรกรในพื้นที่อื่นๆ รวมแล้วอีกประมาณกว่า 200 ไร่ จึงทำให้พริกที่ปลูกสามารถส่งขายหมุนเวียนได้ตลอดทั้งปี ซึ่งเขาเองได้เลือกปลูกพริก 2 พันธุ์นี้ คือ เรดฮอท และชุปเปอร์เรดฮอท เป็นพริกที่ผ่านมาตรฐานในการส่งออก เพราะมีความเผ็ดมีกลิ่นที่หอม และมีผลที่ตรงสม่ำเสมอตลอดการเก็บเกี่ยวผลผลิต ซึ่งการส่งออกไปยังต่างประเทศนั้น จะต้องควบคุมในเรื่องความปลอดภัยต่อผู้บริโภคอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้มีสารตกค้างไปถึงผู้บริโภค
พริกลูกผสมพันธุ์เรดฮอทTA100
“ข้อดีของพริกสายพันธุ์เรดฮอท ผลจะมีความสม่ำเสมอ ไล่จากล่างขึ้นบน และที่สำคัญการเก็บพริกก็เก็บได้ง่าย ส่วนสายพันธุ์ชุปเปอร์เรดฮอทจากประสบการที่ผมได้ปลูกมา ถือว่ามีการต่อยอดที่ดีกว่า ในเรื่องของสีที่แดงสวย ผลผลิตต่อไร่สูง อย่างเก็บทำพริกแดงสามารถทำผลผลิตได้ 2.5 – 3 ตันต่อไร่” คุณธีรวัฒน์ กล่าว
เน้นปลูกดูตามฤดูกาล
ในขั้นตอนของการปลูกพริก ขั้นตอนแรกจะนำเมล็ดพริกมาเพาะลงในกระบะเพาะขนาด 200 หลุม วัสดุที่ใช้เพาะจะเป็นพีทมอส โดยหยอดเมล็ดพริกลงไปในกระบะเพาะ ต้นละ 1 หลุม ซึ่งการเพาะกล้าจะใช้เวลาประมาณ 30-40 วัน พริกจะมีขนาดประมาณ 1 คืบ จึงเตรียมย้ายไปปลูกลงในแปลกที่เตรียมไว้
ซึ่งพริกสามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี โดยเลือกพื้นที่ให้เหมาะสม อย่างเช่นพื้นที่ที่หมดฝนแล้ว ควรเลือกพื้นที่ราบเรียบ ส่วนช่วงที่เป็นฤดูฝนควรเลือกพื้นที่ลาดเอียง
กระบะเพาะเมล็ดพริกขนาด 200 หลุม
“การเตรียมแปลงในครั้งแรก เราจะไถตากดินก่อน ทิ้งไว้ประมาณ 7 วัน เราก็จะไถพรวนยกร่องให้มีความสูงประมาณ 20 เซนติเมตร ให้สันร่องห่างกันประมาณ 1.50 เมตร ปลูกพริกให้ห่างกัน 40 – 45 เซนติเมตร จะทำให้สามารถปลูกพริกได้ประมาณ 3,500 – 4,000 ต้นต่อไร่” คุณธีรวัฒน์ อธิบายวิธีการปลูก
ในเรื่องของการรดน้ำในฟาร์มของคุณธีรวัฒน์ จะใช้ระบบการให้น้ำ 2 ระบบ คือ ระบบน้ำหยดกับระบบสปริงเกอร์ ซึ่งระบบสปริงเกอร์จะมีข้อดีคือช่วยในเรื่องของการล้างใบ ทำให้อุณหภูมิของใบเย็นลง เป็นการปรับอุณหภูมิกลางวันกับกลางคืนมีความใกล้เคียงกัน ทำให้ลดในเรื่องของอาการเม็ดด่างลงไปได้
เมื่อลงปลูกพริกในแปลงได้อายุประมาณ 10 วัน จะเริ่มใส่ปุ๋ยสูตร 27-5-5 เพื่อเร่งการเจริญเติบโตของใบ โดยใส่ปุ๋ยทุกๆ 10 วัน เมื่อพริกมีอายุประมาณ 45 วัน จะเปลี่ยนปุ๋ยเป็นสูตรเสมอ 15-15-15 ในอัตราส่วน 25 กิโลกรัมต่อไร่

พริกลูกผสมพันธุ์ชุปเปอร์เรดฮอทTA218
“การให้ปุ๋ยเราต้องสังเกตุดูสภาพต้น ว่ายอดของพริกที่เราปลูกเจริญเติบโตดีไหม อยู่ที่ความพอใจของคนปลูก สมมุติว่าเราพอแล้วในเรื่องของยอด ต้องการการเพิ่มน้ำหนัก พอพริกข้าสู่อายุ 60-75 วัน ก็จะปรับปุ๋ยเป็นสูตร 13-13-21 ซึ่งพริกปลูกจนสามารถเก็บผลผลิตได้ ก็ใช้เวลาประมาณ 90 วัน” คุณธีวัฒน์  บอกถึงวิธีการใส่ปุ๋ย
เมื่อพริกได้อายุออกผลผลิตจนสามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว จะให้ผลผลิตเก็บเกี่ยวได้ประมาณ 2 – 3 เดือน ซึ่ง 1 ต้นจะให้ผลผลิตเกิน 1 กิโลกรัมขึ้น
แมลงศัตรูพืชที่ต้องระวังสำหรับการปลูกพริก จะเป็นพวกเพลี้ยไฟ ไร หมอนเจาะผล ทำการป้องกันด้วยการฉีดพ่นยาที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคเป็นสำคัญ
ตลาดส่วนใหญ่
เน้นส่งออกยุโรป
พริกที่ปลูกภายในฟาร์มทั้งหมดและรวมถึงสมาชิกที่มีอยู่ในกลุ่ม จะส่งออกไปยังยุโรปรวมกว่า 20 ประแทศ ส่วนพริกบางส่วนก็จะนำมาขายภายในประเทศ เน้นขายให้กับห้างสรรพสินค้าภายใต้มาตรฐาน GAP (จีเอพี) ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกับที่ส่งขายไปยังยุโรป
“ราคาพริกยังถือว่าดีอยู่ ยิ่งเป็นช่วงที่เจออากาศดีๆ อย่างเช่นราคาพริกแดงจะอยู่ที่ราคา 90-100 บาทต่อกิโลกรัม 1 ไร่ เก็บ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ก็จะได้ประมาณ 200-300 กิโลกรัมต่อไร่ ซึ่งตั้งแต่อยู่ในวงการนี้มาผมก็จะปลูกแต่พริกอย่างเดียว ยังไม่เคยทำเกษตรด้านอื่น เราก็มีขายทั้งแบบเป็นพริกสด และมีการแปรรูปทำเป็นพริกแห้งเพื่อส่งให้กับลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ” คุณธีรวัฒน์ กล่าว
คุณธีรวัฒน์ บอว่า การเป็นเกษตรกรปลูกพริกก็ถือว่าทำรายได้ไม่แพ้กับการเกษตรด้านอื่น เกษตรกรสามารถทำผลผลิตออกมาขายได้อย่างสบาย เพียงปลูกแบบทุกต้องตามขั้นตอน และที่สำคัญเรื่องของเมล็ดพันธุ์ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน
การติดดอกออกผล
“สำหรับคนที่อยากจะปลูกพริก เพื่อเป็นอาชีพ ต้องบอกก่อนเลยว่าต้องเลือกฤดูกาลที่เหมาะสม ซึ่งการปลูกพริกอาจเรียกว่าเป็นการเกษตรแบบต้นทุนต่ำก็ได้ถ้าปลูกถูกฤดู แต่ถ้าผิดฤดูกาลไม่เหมาะสมมันก็จะทำให้ต้นทุนเราสูงได้ เรื่องพื้นที่ปลูก จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ส่วนเรื่องของสายพันธุ์ตัวนี้ก็สำคัญ ต่อให้เราปลูกดูแลดีขนาดไหน แต่ถ้าสายพันธุ์พริกที่เราปลูกยังไม่มีคุณภาพ ผลผลิตที่เราตั้งเป้าไว้ มันก็จะได้ไม่ดี ดังนั้นเรื่องนี้จึงสำคัญ” คุณธีรวัฒน์ กล่าวแนะนำ
(ซ้ายสุด) คุณธีรวัฒน์ รังสิกรรพุม เจ้าของฟาร์มสายมี
ติดต่อสอบถามข้อมลเพิ่มเติมได้ที่ คุณธีวัฒน์ รังสิกรรพุม หรือคุณโน๊ต ที่หมายเลยโทรศัพท์ (093) 193-9292 , (089) 524-7998

วันพฤหัสบดีที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2562

นายท้ายเรือ ใช้เวลาว่างจากงานประจำ ปลูกผักปลอดสารเพียง 1 ไร่ สร้างรายได้เสริม 60,000 บาท ต่อปี

นายท้ายเรือ ใช้เวลาว่างจากงานประจำ ปลูกผักปลอดสารเพียง 1 ไร่ สร้างรายได้เสริม 60,000 บาท ต่อปี


การประกอบ “สัมมาชีพ” เป็นการทำมาหากินโดยไม่ได้เอากำไรสูงสุดเป็นตัวตั้งหรือเป็นเป้าหมายสุดท้าย แต่เป็นการคำนึงถึงความเป็นธรรมทางสังคม กล่าวคือ เป็นความสุขของตนและคนทำงาน รวมถึงประโยชน์ของผู้บริโภคและผู้รับบริการเป็นหลัก
สัมมาชีพชุมชน คือชุมชนมีการประกอบอาชีพโดยชอบ ซึ่งมีรายได้มากกว่ารายจ่าย โดยลดการเบียดเบียนตนเอง เบียดเบียนผู้อื่น และเบียดเบียนสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ต้องสอดคล้องกับวิถีของชุมชน เพื่อความมุ่งหมายในการสร้างระบบเศรษฐกิจชุมชน
ทุกเย็น ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดพะเยา ริมกว๊านพะเยา จะมีผู้คนที่รักสุขภาพมาออกกำลังกายกันทุกวัน ถ้าหากสังเกตจะเห็นชายคนหนึ่งกำลังง่วนอยู่กับแปลงผักของเขา และยังมีอีกประมาณ 4-5 ครอบครัว ก็ปลูกผักเหมือนกัน แปลงผักที่เขียวชอุ่ม ปลอดภัยจากสารพิษ เป็นจุดดึงดูดใจของผู้คนที่มาออกกำลังกาย เมื่อออกกำลังกายเสร็จแล้วก็จะมาอุดหนุนผักปลอดภัยจากสารพิษที่นี่ไปทำอาหารรับประทานกันที่บ้าน คือได้ทั้งสุขภาพกายแข็งแรงแล้ว ยังได้รับประทานผักปลอดภัยจากสารพิษอีกด้วย
คุณสืบสวัสดิ์ รินสาร เจ้าหน้าที่นายท้ายเรือของศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดพะเยา จะปลูกผักหลากหลายชนิดในช่วงฤดูหนาว สร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัวได้เป็นอย่างดี โดยใช้พื้นที่ว่างภายในบริเวณศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดพะเยา ซึ่งเป็นที่รกร้างยกแปลงปลูกผักปลอดภัยจากสารพิษขายทำรายได้งาม บอกปลูกแค่ 2 เดือน โดยจะวางแผนทยอยปลูกเพื่อให้ผลผลิตพร้อมที่เก็บเกี่ยวทยอยกันไป เก็บผลผลิตขายได้ทุกวัน ลดต้นทุนและเพิ่มความปลอดภัยให้กับตนเองและผู้บริโภค โดยการเตรียมดินอย่างดี ใช้เศษสวะที่เก็บขึ้นมาจากกว๊านพะเยามาทำเป็นปุ๋ยหมักคลุกเคล้าในแปลงปลูก ทำน้ำหมักชีวภาพจากหอยและปลา ทำให้ประหยัดต้นทุนการผลิต สามารถทำรายได้เฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า 50,000-60,000 บาท ต่อไร่ ต่อครั้ง
คุณสืบสวัสดิ์ บอกว่าใช้เวลาว่างหลังจากเลิกงานและวันหยุดราชการมาปลูกพืชผัก อาทิ ต้นคะน้า กวางตุ้ง บร็อกโคลี่ พริก มะเขือ รวมทั้งผักประเภทอื่นๆ โดยใช้พื้นที่ว่างของศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดพะเยา ที่รกร้างว่างเปล่า ปรับพื้นที่เพื่อปลูกผักในช่วงฤดูหนาว ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัวได้เป็นอย่างดีในช่วงนี้
คุณสืบสวัสดิ์ กล่าวต่อว่า ตนได้ขออนุญาตใช้พื้นที่ภายในศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดพะเยาปลูกพืชผักในช่วงฤดูหนาวแทบทุกปี เนื่องจากในช่วงนี้ผักจะเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี ผักที่ปลูกจะมีทั้งคะน้า กวางตุ้ง บร็อกโคลี่ และอื่นๆ อีกหลายชนิด ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ที่เดินทางมาออกกำลังกาย และพบเห็น จะมาหาซื้ออย่างต่อเนื่อง และในบางส่วนก็จะมีแม่ค้าแถวตลาดเทศบาล และตลาดแม่ทองคำ สี่แยกแม่ต๋ำ เดินทางมารับซื้อจนแทบไม่เหลือ เนื่องจากพืชผักที่นี่เป็นที่สนใจของบรรดาพ่อค้าแม่ค้า เพราะเป็นการปลูกพืชผักแบบปลอดภัยจากสารพิษ โดยเฉลี่ยแล้วในการปลูก 1 ไร่ สามารถจำหน่าย สร้างรายได้ 50,000-60,000 บาท หากท่านสนใจอยากแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สอบถามได้ที่ โทร. (085) 106-3102
ผักที่ปลูกสวยงามมาก
แปลงผัก
นอกจากครอบครัวของคุณสืบสวัสดิ์แล้ว ยังมีครอบครัวอื่นๆ อีก 5 ครอบครัว ที่มีอาชีพปลูกผักปลอดภัยจากสารพิษขาย สร้างรายได้ อาทิ ครอบครัวของ คุณเพียร แหวนเพชรและภริยา คุณสมศรี แหวนเพชร บ้านแม่ต๋ำภูมินทร์ ก็มาทำอาชีพปลูกผักขายที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดพะเยาด้วย
ต้องขอขอบคุณและชมเชยศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดพะเยา ที่สนับสนุนส่งเสริมการสร้างงาน สร้างรายได้ แก่บุคคลต้นแบบสัมมาชีพท่านนี้ การช่วยเหลือสนับสนุนประชาชนในการประกอบอาชีพและตั้งตัวให้มีความพอกินพอใช้ก่อนอื่นเป็นพื้นฐานนั้น เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวด เพราะผู้ที่มีอาชีพและฐานะเพียงพอที่จะพึ่งตนเอง ย่อมสามารถสร้างความเจริญก้าวหน้าระดับที่สูงขึ้นต่อไป สร้างความมั่นคงให้เศรษฐกิจในระดับชุมชน จังหวัด และสุดท้ายมีผลไปถึงระดับประเทศชาติเลยทีเดียว     
ที่มา:https://www.sentangsedtee.com/

งานฝีมือพับนกกระดาษ รายได้เสริมทำที่บ้าน

งานฝีมือพับนกกระดาษ รายได้เสริมทำที่บ้าน


งานฝีมือพับนกกระดาษ รายได้เสริมทำที่บ้าน

ค่าแรง
• พับนก 250 บาท ต่อ 1,000 ตัว
(ไม่ต้องตัดกระดาษ ไม่ต้องออกค่าส่งไปกลับ )
รายละเอียด
• กำหนดเวลาส่ง 2 อาทิตย์นะคะ นับจากวันได้รับของและส่งของ
• เน้นคนพับอย่างเดียว ได้ค่าแรงเต็มๆ
• ไม่ต้องตัดกระดาษและค่าจัดส่ง
• ขอคนทำจริงจังค่ะ เกิน 3 อาทิตย์ขึ้นไป ขออนุญาติตัดสิทธินะจ้า *
เพิ่มเติม
• สมัครโดย พับนกตามคลิปขนา ขนาด 1.5 , 3 นิ้ว ส่งทาง Line
• อิงวิธีพับมาตราฐานเดียวกันจากคลิปนี้ค่ะ
https://www.youtube.com/watch?v=hTOxLQ_P2ZE
• ค่าแรง พับนก 250 บาท ต่อ 1,000 ตัว
(ไม่ต้องตัดกระดาษ ไม่ต้องออกค่าส่งไปกลับ )
• เมื่อพับเสร็จ ถ่ายบิลส่งกลับ พร้อมเลขพัศดุ เมื่อได้รับของจะโอนเงินค่าพับตามจำนวน + ค่าส่ง โอนให้ทางบัญชี
• ค่าสมัคร เพื่อมัดจำประกันกระดาษ รอบแรก 600 + ค่าส่ง 50 บาท
• ทำครบ 5 ครั้งคืนเงิน ถ้าไม่ทำต่อ ถ้าทำต่อสามารถทำต่อไปได้เรื่อยๆ
• จะเลิกทำได้ ครบ 5 ครั้ง คืนมัดจำ ไม่เซ้าซี้ ค่ะ เพราะเราต้องการคนพับด้วยกันนานๆ
ปล. ที่ต้องมัดจำครั้งแรก เพราะว่ามีบางท่านรับของไปแล้วหายไปเลย ><~
วิธีสมัคร ติดต่อ
• FB Inbox : www.facebook.com/happihandmades
• ID Line : https://goo.gl/A6dfPe

งานพาร์ทไทม์ อาชีพเสริม ขายเฉาก๊วย สร้างรายได้จากเมนูยอดนิยมตลอดกาล

งานพาร์ทไทม์ อาชีพเสริม ขายเฉาก๊วย สร้างรายได้จากเมนูยอดนิยมตลอดกาล


งานพาร์ทไทม์ อาชีพเสริม ขายเฉาก๊วย
สร้างรายได้จากเมนูยอดนิยมตลอดกาล

งานพาร์ทไทม์ อาชีพเสริม ขายเฉาก๊วย อีกหนึ่งช่องทางการสร้างอาชีพยามว่าง เพื่อทำรายได้นอกเหนือจากงานประจำ แนะนำสำหรับคนที่อยากมีเงินเพิ่มเติมจากอาชีพหลักโดยเฉพาะ ทางเราได้รวบรวมมาให้แล้วเกี่ยวกับข้อมูลต่างๆ เพื่อการขายเฉาก๊วยเป็นอาชีพเสริม ความน่าสนใจของการขายเฉาก็วยคือเป็นเมนูที่ทานง่าย ทานได้ทุกเพศทุกวัย กลุ่มลูกค้ากว้างขวาง ทั้งยังเป็นเมนูทานเล่นที่ได้รับความนิยม จึงเหมาะสำหรับเป็นอาชีพทำเงิน
งานพาร์ทไทม์ อาชีพเสริม ขายเฉาก๊วย มีกี่รูปแบบ?
เรามาทำความรู้จักกันก่อนว่างานพาร์ทไทม์ อาชีพเสริม ขายเฉาก๊วยนี้มีทั้งหมดกี่รูปแบบ สำหรับการทำเป็นอาชัพเสริมขอหลีกเลี่ยงการสร้างแบรนด์ออกไป เพราะดูจะวุ่นวายไปหน่อย เน้นการซื้อมาขายไปจะดีกว่า
1.การรับเฉาก๊วยสำเร็จรูปมาขาย
เหมาะสำหรับการสร้างเป็นงานพาร์ทไทม์ อาชีพเสริม ขายเฉาก๊วย อย่างมากสำหรับรูปแบบนี้ โดยเป็นการรับเฉาก๊วยสำเร็จรูปมาจำหน่าย หรือเรียกอีกอย่างว่าเฉาก๊วยพร้อมทาน มีแพคเกจเรียบร้อย อาจมีแบรนด์หรือไม่มีก็ได้ มีหลากหลายชนิด เช่น เฉาก๊วยในน้ำเชื่อม เฉาก๊วยในนมสด เป็นต้น หากเป็นเจ้าของร้านอาหาร (พวกร้านตามสั่ง) สามารถรับไปแช่ในตู้เย็นขายเสริมได้เลย ต้นทุนมีหลากหลายราคาขึ้นอยู่กับแบรนด์ซึ่งเจ้าของแบรนด์เป็นผู้กำหนด  จากการสำรวจเบื้องต้นขวดละ 5 บาทสามารถขายต่อได้ขวดละ 20-30 บาท
2.การรับเฉาก๊วยปริมาณมากมาตักแบ่งขาย
อีกรูปแบบหนึ่งสำหรับงานพาร์ทไทม์ อาชีพเสริม ขายเฉาก๊วย คือการไปรับเฉาก๊วยเปล่าๆ จำนวนมากๆ มาตักแบ่งขาย แล้วแต่รูปแบบที่อยากขาย อาจตักใส่แก้วหรือใส่ถ้วยโฟม ผสมลงในน้ำเชื่อมก็ได้ หรือจะใส่ลงในนมสดก็แล้วแต่ว่าจะเลือกขายแบบไหน นิยมขายส่งแบบกิโลกรัม จากการสำรวจตลาดเบื้องต้นพบว่าเฉาก๊วยขายส่งราคาอยู่ที่ 5 กิโลกรัมราคา 200 บาท (เจ้าดัง) เมื่อคำนวณต่อกิโลกรัมจะอยู่ที่ 40 บาทต่อกิโลกรัม แต่ถ้าหากเป็นร้านขายส่งในตลาดไม่มีแบรนด์ราคาอาจจะถูกว่า สามารถรับมาจำหน่ายต่อได้หลากหลายเมนู เมนูแนะนำ เฉาก๊วยนมสด เฉาก๊วยในน้ำเชื่อม เฉาฉ๊วยนมสดโรยผงไมโล เป็นต้น
3.การซื้อแฟรนไชส์
อีกหนึ่งช่องทางการสร้างรายได้เสริมก็คือการซื้อแฟรนไชส์ สำหรับการขายตามตลาดนัด หน้าร้านสะดวกซื้อ หน้าโรงเรียน และอื่นๆ ลงทุนตามแพ็คเก็ตของแฟรนไชส์ที่ทางแบรนด์กำหนดไว้ วิธีนี้ง่ายเพียงแค่ติดต่อกับบริษัทแฟรนไชส์ที่สนใจและทำการสำรวจทำเลที่เหมาะสม จากนั้นติดต่อทำสัญญาเรื่องเช่าพื้นที่เพื่อนำแฟรนไชส์มาลงขาย วันธรรมดาอาจจ้างลูกจ้างมาขายแทน ส่วนวันหยุดก็ลงสนามขายเอง เป็นต้น
งานพาร์ทไทม์ อาชีพเสริม ขายเฉาก๊วย แจกสูตรทำเนื้อเฉาก๊วยด้วยตัวเอง
สิ่งที่ต้องเตรียม ได้แก่ น้ำเปล่า 3 ลิตร, หญ้าเฉาก๊วย 500 กรัม, เบคกิ้งโซดา 2 ช้อนชา, แป้งมัน 1/2 ถ้วยตวง และผงวุ้น 1 1/2 ช้อนโต๊ะ สำหรับทำเมนูเฉาก๊วยใส่แก้วขายได้ 10 แก้ว
วิธีทำ
  1. ล้างหญ้าเฉาก๊วยด้วยน้ำสะอาด ประมาน 3-4 น้ำ
  2. นำน้ำเปล่าใส่ลงในหม้อแล้วนำไปตั้งไฟ เมื่อน้ำเดือดใส่เบคกิ้งโซดาลงไป จากนั้นคนให้เข้ากันกับน้ำ
  3. นำหญ้าเฉาก๊วยใส่ตามลงไป
  4. ต้มทิ้งไว้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง
  5. หลังครบ 2 ชั่วโมง ให้นำไปกรองเอาแต่น้ำเฉาก๊วยให้ได้ 8 ถ้วยตวง
  6. นำน้ำเฉาก๊วยที่ได้ใส่หม้อแล้วตั้งไฟ
  7. เติมผงวุ้นและแป้งมันลงไป คนให้เข้ากัน
  8. ต้มจนกว่าน้ำเฉาก๊วยจะหนืดขี้นและเมื่อน้ำเฉาก๊วยได้ที่แล้ว เทใส่พิมพ์แล้วนำไปแช่ในตู้เย็น 30 นาที
  9. นำออกมาตัดให้เป็นชิ้นสี่เหลี่ยม เตรียมจัดเสิร์ฟ
ข้อแนะนำ
  • ผงวุ้นควรใส่ตอนน้ำเฉาก๊วยยังไม่ร้อน ไม่ควรใส่ตอนน้ำเดือด เพราะจะทำให้ผงวุ้นจับตัวเป็นก้อน
  • แป้งมันควรนำไปละลายน้ำ อัตราส่วน 1:1 แล้วเทแป้งมันลงในหม้อที่กำลังเดือด เพื่อให้เฉาก๊วยเงาใสฃ
ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องราวของงานพาร์ทไทม์ อาชีพเสริม ขายเฉาก๊วย ซึ่งเหมาะสำหรับการสร้างกำไรสร้างอาชีพเสริม แนะนำทำเลค้าขาย ได้แก่ หน้าโรงเรียน ศูนย์อาหารตามสถานที่ราชการ ออฟฟิศสำนักงาน ตลาดนัด และอื่นๆ หากตักเฉาก๊วยขายเป็นแก้ว แนะนำขายราคาประมาณ 20-30 บาทต่อหน่วย จะดีที่สุด แต่ถ้าหากใส่ออฟชั่นเสริมเยอะ เช่น ผงไมโล นมสด เป็นต้น ก็ให้บวกราคาท็อปปิ้งนั้นๆ เข้าไป
ที่มา:http://www.thaiparttime.co/

อาชีพเสริม ทำลูกชุบขาย สร้างกำไรง่ายๆด้วยเมนูขนมไทย

อาชีพเสริม ทำลูกชุบขาย สร้างกำไรง่ายๆด้วยเมนูขนมไทย


อาชีพเสริม ทำลูกชุบขาย สร้างกำไรง่ายๆด้วยเมนูขนมไทย

อาชีพเสริม หรืองานรายได้เสริมวันนี้เรามาพร้อมกับไอเดียอาชีพซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำขนมขาย เป็นขนมไทยที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ทั้งยังเคยได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในสังคมไทยสมัยเก่า แม้ปัจจุบันจะเลือนหายไปบ้าง เพราะอิทธิพลขนมต่างประเทศเข้ามามีบทบาทค่อนข้างมาก แต่ขนมลูกชุบก็ยังคงเป็นสิ่งที่คนบางกลุ่มยังคงต้องการอยู่
อาชีพเสริม วันนี้เราเลือกหยิบการขายขนมลูกชุบมานำเสนอเพราะเหตุผลที่ว่าขนมนี้เป็นขนมที่ต้นทุนต่ำมาก แต่สามารถตั้งราคาได้สูงนำมาซึ่งผลกำไรที่น่าสนใจ อีกทั้งยังมีผู้ประกอบการน้อยราย เกิดเป็นช่องว่างในธุรกิจและเป็นโอกาสที่น่าหยิบฉวยไว้นั่นเอง ปัจจุบันการทำลูกชุบขายถ้าไม่มีเวลาว่างมากนัก สามารถทำขายเป็นอาชีพเสริมได้ เพราะมีหลายรายทำแบบนั้นอยู่เช่นกัน แต่ก็สร้างยอดขายไม่น้อยกลายเป็นรายได้เสริมในจำนวนที่ค่อนข้างเหลือเชื่อ
อาชีพเสริม ขายลูกชุบแนะนำให้เปิดขายแบบ “Made to order จะค่อนข้างเหมาะสม เนื่องจากขนมลูกชุบเป็นอาหารที่มีการเน่าเสียเช่นเดียวกับอาหารชนิดอื่นๆ การทำทิ้งไว้แล้วรอให้คนมาซื้อทานนั้น บางครั้งอาจไม่ค่อยเวิร์คเท่าที่ควร เพราะมีโอกาสที่จะเน่าเสียได้ แต่การทำขายแบบ Made to order คือการรอให้มีออร์เดอร์เข้ามาก่อนแล้วทำตามคำสั่งลูกค้าไป แบบนั้นก็จะช่วยให้จำหน่ายอาหารได้สดใหม่มากกว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องการซื้อวัตถุดิบเตรียมไว้ก็ยังเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องคำนวณให้เหมาะสม
อาชีพเสริม เตรียมวัตถุดิบทำลูกชุบขาย
  1. ถั่วเขียวแกะเปลือกจำนวน 1 กิโลกรัม
  2. น้ำตาลทรายขาว 9 ขีด
  3. น้ำกะทิ ½ กิโลกรัม
หมายเหตุ อัตราส่วนผสมดังกล่าวสำหรับทำลูกชุบจำนวน 500 ลูก
อาชีพเสริม วิธีกวนลูกชุบ
นำถั่วเขียวมาลางน้ำให้สะอาดก่อนนำไปแช่ทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง แล้วเทใส่ผ้าขาวบางเพื่อสะเด็ดน้ำออก จากนั้นนำถั่วเขียวที่ได้ไปนึ่งให้สุกใช้เวลา 1 ชั่วโมงโดยประมาณ และลองสัมผัสดูว่านิ่มทั้งเม็ดหรือไม่ หากนิ่มทั่วทั้งเม็ดแล้วนำไปบดจนละเอียด แล้วใส่ลงในกระทะทองเหลืองที่มีน้ำกะทิเตรียมไว้ กวนให้เข้ากันแล้วปรุงรสด้วยน้ำตาล จากนั้นนำไปตั้งไฟอ่อนๆ แล้วกวนไปทางเดียวกันโดยใช้ไม้พาย เมื่อถั่วเหนียวและไม่ติดกระทะ ก็หยิบขึ้นมาปั้นเป็นรูปร่างต่างๆ ได้ หากกวนถั่วด้วยเครื่องให้เอาถั่วเขียวที่ร้อนระอุใส่ลงไปในเครื่องกวน ใช้เวลาประมาณ 45-60 นาทีเป็นอันเสร็จสรรพ ประหยัดเวลากว่าแรงงานคนไป 2-3 ชั่วโมง
ข้อแนะนำสำหรับอาชีพเสริมขายลูกชุบ
  1. เป็นงานที่ต้องใช้ความประณีตสูง ผู้ที่คิดจะทำอาชีพนี้ต้องใจเย็น
  2. เป็นงานที่ต้องใช้ฝีมือและศิลปะ เกี่ยวข้องกับความสวยงาม หากไม่รักในงานฝีมือ หรือไม่ชอบงานศิลปะ ค่อนข้างเป็นเรื่องยากในการทำลูกชุบให้สำเร็จ
  3. การทำอาชีพเสริมแนะนำให้ทำแบบ Made to order เพราะช่วยให้การขายสินค้าสดใหม่กว่าการทำไว้ก่อน
  4. การรับออร์เดอร์สินค้า เนื่องจากลูกชุบเป็นงานฝีมือที่ต้องใช้เวลาในการประดิษฐ์ ดังนั้นควรรับออร์เดอร์ล่วงหน้า 2-3 วัน
  5. ลูกชุบที่เราคุ้นตามักเป็นรูปผลไม้ต่างๆ แต่ความจริงแล้วลูกชุบสามารถสร้างสรรค์ได้หลากหลายรูปแบบ เพื่อเป็นการสร้างจุดขาย ควรเน้นที่รูปร่างแปลกใหม่เพื่อจูงใจให้เกิดการสั่งซื้อ
  6. ช่องทางออนไลน์เป็นช่องทางที่เหมาะสมไม่น้อย หากขายบนออนไลน์ควรมีตัวอย่างถ่ายภาพลงบนช่องทางที่ใช้ประชาสัมพันธ์สินค้า เพื่อพรีเซนต์สินค้าในเบื้องต้น
  7. การทำลูกชุบ 500 ลูกใช้เงินทุน 130 บาทโดยประมาณ
  8. สินค้าประเภทนี้คนส่วนมากนิยมซื้อไปเป็นของขวัญ จึงมียอดสั่งซื้อจำนวนมากในช่วงเทศกาล
ที่มา:https://www.smeleader.com/


บทความที่ได้รับความนิยม